แก้ปัญหาบ้านร้อน ปูฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา กับปูบนฝ้าเพดาน แบบไหนบ้านเย็นกว่ากัน ?
แก้ปัญหาบ้านร้อน ปูฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา กับปูบนฝ้าเพดาน แบบไหนบ้านเย็นกว่ากัน ? ข้อแตกต่างและข้อคำนึงในการเลือกฉนวนกันความร้อนหลังคาเพื่อบ้านเย็น ว่าจะใช้ฉนวนแบบปูใต้หลังคาหรือปูบนฝ้าเพดาน เพื่อการแก้ปัญหาบ้านร้อนที่ได้ประสิทธิภาพ
ตัวช่วยแก้ปัญหาบ้านร้อน อย่างฉนวนกันความร้อนหลังคาทั้งแบบปูบนฝ้าเพดานและแบบปูใต้หลังคา ต่างก็มีคุณสมบัติป้องกันความร้อน ช่วยลดความร้อนจากโถงหลังคาที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน ทำบ้านเย็นขึ้นได้ทั้งคู่ โดยข้อคำนึงหลักๆ ที่เจ้าของบ้านควรพิจารณาในการเลือกใช้งานก็คือ ค่าการกันความร้อน (ค่า R) ตำแหน่งการติดตั้ง รูปแบบของฉนวน และการดูแลรักษา
ค่าการกันความร้อน หรือ ค่า R ของฉนวนกันความร้อนหลังคา
การจะปูฉนวนกันความร้อนหลังคา ไม่ว่าจะปูเหนือฝ้าเพดาน หรือปูใต้หลังคานั้น ประสิทธิภาพการกันความร้อนอาจให้ผลไม่ต่างกันมากนัก เพราะปัจจัยที่สำคัญกว่าคือ “ค่าการกันความร้อน” เป็นความสามารถในการต้านทานความร้อน หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “ค่า R” ในการเลือกซื้อฉนวนกันความร้อน จึงควรดูค่า R เป็นหลัก โดยวัสดุแต่ละชนิดจะมีค่า R แตกต่างกัน ทั้งนี้ ค่า R จะสัมพันธ์กับความหนาของฉนวน โดยฉนวนยิ่งหนา ค่า R จะยิ่งสูง
ตำแหน่งการติดตั้งฉนวนกันความร้อนหลังคา
ฉนวนกันความร้อนแบบปูใต้หลังคาจะติดตั้งไปตามความลาดเอียงของหลังคา ซึ่งต้องมีวิธียึดติดตั้งฉนวนให้แนบไปกับหลังคาตามที่ผู้ผลิตกำหนด ส่วนการติดตั้งฉนวนกันความร้อนหลังคาแบบปูบนฝ้าเพดาน จะเป็นวางหรือปูฉนวนเรียงไปบนฝ้าเพดานเท่านั้น ซึ่งโดยทั่วไปมักไม่มีการยึดฉนวนเข้ากับโครงคร่าวฝ้า
รูปแบบของฉนวนกันความร้อนหลังคา
– ฉนวนกันความร้อนแบบปูใต้หลังคา จะมีทั้ง วัสดุโฟม PU สำหรับพ่นใต้กระเบื้องหลังคาตามความหนาที่ต้องการ (2-3 นิ้ว โดยทั่วไป) หรือจะเป็นวัสดุแบบแผ่นหุ้มอะลูมิเนียมฟอยล์ อย่างโพลีเอธิลีนโฟม (PE หรือ โฟมพีอี) Air Bubble รวมถึงแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์สะท้อนรังสีความร้อนที่มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดา และแบบมีฉนวนใยแก้วซ่อนด้านในช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกันความร้อน
– ฉนวนกันความร้อนแบบปูบนฝ้าเพดาน อาจเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนแบบแผ่นที่ปูใต้หลังคาได้อย่าง โพลีเอธิลีนโฟม Air Bubble หรือจะเลือกใช้ฉนวนใยแก้วแบบม้วนก็ได้
การดูแลรักษาฉนวนกันความร้อนหลังคา
หากเทียบกันแล้ว ฉนวนกันความร้อนหลังคาที่ปูบนฝ้าเพดานมักรื้อเปลี่ยนได้ง่ายกว่า โดยสามารถลำเลียงฉนวนเข้าออกทางช่องเซอร์วิสบนฝ้าเพดานได้ ส่วนการรื้อเปลี่ยนฉนวนที่ติดตั้งใต้หลังคาส่วนใหญ่มักต้องมีการรื้อกระเบื้องหลังคา ซึ่งค่อนข้างยุ่งยากกว่า
หลังจากที่ได้เห็นภาพรวมของฉนวนกันความร้อนหลังคา ทั้งแบบปูใต้หลังคาและแบบปูบนฝ้าเพดานไปแล้ว การตัดสินใจเลือกฉนวนเพื่อแก้ปัญหาบ้านร้อนครั้งต่อไปก็ไม่ใช่เรื่องยาก อย่างไรก็ตาม อีกเรื่องสำคัญที่เจ้าของบ้านจะมองข้ามไม่ได้ก็คือ การทำบ้านเย็นนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ติดตั้งฉนวนที่มี ค่า R สูง ในหลายๆ ตำแหน่งของบ้านเท่านั้น แต่จะต้อง “มีการระบายอากาศที่ดี” มิฉะนั้นความร้อนในบ้านจะถูกฉนวนกักไว้ทำให้บ้านร้อนอบอ้าว ทำนองว่าฉนวนช่วยกันความร้อนไม่ให้เข้าบ้าน แต่ก็กันความร้อนในบ้านไม่ให้ออกไปเช่นเดียวกัน การระบายอากาศที่ดี จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยพาเอาความร้อนในบ้านออกไปได้
ขอขอบคุณ
www.scghome.com
www.scg-smarthome.com
www.scgmortar.scg-towiwat.com
www.webplandee.com
www.taradwebsite.com