จะต่อเติมหลังคา ทำหลังคาใสหรือหลังคาทึบดี ?
จะต่อเติมหลังคา ทำหลังคาใสหรือหลังคาทึบดี จะต่อเติมหลังคาโปร่งแสงหรือทึบแสงดีนั้น เจ้าของบ้านต้องตัดสินใจ โดยพิจารณาปัจจัยเรื่องการใช้งาน ทิศทางและปริมาณแดด รูปแบบที่ดูเข้ากับบ้าน รวมถึงข้อดีข้อเสียของหลังคาแต่ละแบบ
เมื่อพูดถึงการต่อเติมเพิ่มพื้นที่ใช้สอยนอกบ้าน อย่างครัว โรงรถ ลานซักล้าง ห้องเก็บของ มักหนีไม่พ้นเรื่องการต่อเติมหลังคา หนึ่งในประเด็นที่หลายคนสงสัยก็คือ จะทำหลังคาใสๆ ให้แสงลอดผ่านได้หรือจะทำหลังคาทึบบังแดดไปเลยดี วันนี้จะขอแนะนำแนวทางให้พอนึกภาพกันออก เพื่อเป็นไอเดียในการต่อเติมหลังคาที่ตรงใจและตอบโจทย์การใช้งานสำหรับเจ้าของบ้าน
รู้จักหลังคาใส หลังคาโปร่งแสง และหลังคาทึบแสง
หลังคาใสกับหลังคาโปร่งแสง จะคล้ายกันตรงที่แสงส่องผ่านได้ทั้งคู่ โดยหลักแล้วถ้าพูดถึงหลังคาใส ย่อมต้องมองเห็นทะลุไปด้านนอกได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าเป็นหลังคาโปร่งแสงนั้นเราจะนึกถึงวัสดุที่ขุ่นกว่า โดยจะมองทะลุอีกฝั่งได้ชัดมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับปริมาณที่แสงส่องผ่านได้ หากเป็นวัสดุที่แสงส่องผ่าน 80% จะมองทะลุได้ชัดกว่า วัสดุที่แสงส่องผ่านเพียง 40% เป็นต้น สำหรับครั้งนี้เพื่อไม่ให้งง จะขอเรียกหลังคาใสรวมไปกับ “หลังคาโปร่งแสง” ด้วยเลย
ส่วนหลังคาทึบแสง ก็จะหมายถึงหลังคาที่มุงวัสดุทึบ พูดง่ายๆ ว่าอยู่ใต้หลังคาทึบแสงแล้วแสงแดดจะไม่ส่องเข้ามาในพื้นที่ใช้สอย (แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ร้อน เพราะถึงแม้แดดจะไม่ส่องแต่ความร้อนก็ยังผ่านเข้ามาได้อยู่ดี)
หลังคาโปร่งแสงกับหลังคาทึบแสง เลือกใช้แบบไหนดี จะเลือกหลังคาโปร่งแสงหรือทึบแสงดีนั้น อันดับแรกควรดูเรื่องการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น
- ต่อเติมหลังคากันสาดเหนือประตูหน้าต่าง หากเป็นทิศตะวันตกซึ่งต้องการกันทั้งแดดและฝน ก็ควรเลือกหลังคาทึบแสง แต่ถ้าเป็นทิศเหนือที่แดดร่มทั้งวัน อาจเลือกทำหลังคาโปร่งแสงเพื่อกันฝนโดยให้รับแสงธรรมชาติได้ทั้งวัน
- ต่อเติมหลังคาลานซักล้าง หากต้องการทำหลังคากันฝนแต่ให้รับแดดขณะตากผ้าด้วย จะเหมาะกับหลังคาโปร่งแสง
- ต่อเติมหลังคาโรงจอดรถ ครัว ห้องเก็บของ พื้นที่พักผ่อนนั่งเล่น อันนี้ขึ้นอยู่กับทิศทางแดดและรายละเอียดการใช้สอย แต่ละบ้านมีความต้องการไม่เหมือนกัน หรือถ้าต้องการแสงธรรมชาติแค่บางส่วน อาจใช้ผสมกัน เช่น ห้องครัว อาจทำหลังคาโปร่งแสงให้แดดส่องบริเวณชั้นวางเครื่องครัวกับอ่างล้างจาน ส่วนบริเวณตู้เย็นและที่เก็บอาหารใช้หลังคาทึบ เป็นต้น
บางครั้งเราอาจนำความชอบและสไตล์การตกแต่งเป็นอีกปัจจัยในการเลือก อย่างหลังคาทึบจะเข้ากันได้ง่ายกับบ้านสไตล์ร่วมสมัย ส่วนหลังคากันสาดโปร่งแสงแผ่นเรียบจะนิยมกับบ้านสไตล์โมเดิร์น ในขณะที่บางบ้านทำหลังคาโปร่งแสงกันฝน พร้อมติดตั้งไม้ระแนงเพื่อช่วยกรองแสงและสร้างลูกเล่นแสงเงาในตัว เป็นต้น
วัสดุมุงหลังคาโปร่งแสงและทึบแสง มีแบบไหนให้เลือกบ้าง
หลังคาแบบโปร่งแสงและทึบแสงมีวัสดุมุงหลายแบบหลายสีให้เลือก สำหรับหลังคาโปร่งแสงจะมีวัสดุแผ่นเรียบอย่างโพลีคาร์บอเนต (แบบแผ่นตัน แบบแผ่นลูกฟูก แบบผิวส้ม) และอะคริลิก (มีทั้งรุ่นธรรมดา รุ่นคุณภาพสูงเพิ่มความแข็งแกร่ง รุ่นป้องกันความร้อน) นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์กลาสทั้งแผ่นเรียบและแผ่นลอน กับอีกวัสดุคือ UPVC ซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นลอน (หากเป็นสีขาวขุ่นแสงจะส่องผ่านเพียง 40 %)
ส่วนวัสดุสำหรับต่อเติมหลังคาแบบทึบที่นิยมกันมากจะ ได้แก่ เมทัลชีท เป็นแผ่นหลังคาเหล็กรีดลอนซึ่งมีรุ่นธรรมดาและรุ่นติดตั้งฉนวนในตัว) กับอีกชนิดซึ่งมีรูปลอนใกล้เคียงกัน คือ UPVC ซึ่งมักมีฉนวนกันความร้อนสอดไส้ไว้ด้วย อีกวัสดุที่น่าสนใจคือ ไวนิล มีลักษณะเป็นชิ้นยาว หน้ากว้าง 12.5 ซม. ยาว 4-6 เมตร ตัวแผ่นถูกออกแบบให้ล็อกต่อกันได้เลย สำหรับกรณีที่ต้องการต่อเติมหลังคาแบบทึบควบคู่กับหลังคาโปร่งแสง อาจเลือกใช้ กระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ ซึ่งมีกระเบื้องโปร่งแสง (วัสดุไฟเบอร์กลาสหรือโพลีคาร์บอเนต) รูปลอนเดียวกันให้ใช้ด้วย
สรุปข้อดี ข้อคำนึง ของหลังคาโปร่งแสงและทึบแสง
หลังคาโปร่งแสงจะได้เปรียบกว่าหลังคาทึบแสงในเรื่องความสว่างและบรรยากาศจากแสงธรรมชาติ (อาจเหมาะกับคอนเซปต์ประหยัดพลังงานตรงที่ช่วยลดการเปิดไฟได้) และยังสร้างลูกเล่นการตกแต่งแสงเงาได้มากกว่า ข้อสำคัญในการเลือกใช้หลังคาโปร่งแสงคือ ควรดูปริมาณและทิศทางแดดให้ดีเพื่อไม่ให้แดดส่องจนร้อนเกินไป และอาจต้องทำใจว่าเมื่อใช้งานไปนานจะมองเห็นคราบสกปรกได้ง่าย รวมถึงไม่เหมาะกับการติดตั้งฉนวนกันร้อนกันเสียง เนื่องจากจะทำลายทั้งความสวยงามและจุดประสงค์หลักที่ต้องการให้แสงส่องผ่านได้
ส่วนหลังคาทึบแสง ถ้าพูดถึงเรื่องบรรยากาศรับแสงธรรมชาติ ความสวยงามเชิงทันสมัย และการสร้างลูกเล่นตกแต่ง อาจหลากหลายน้อยกว่าหลังคาโปร่งแสง ในขณะเดียวกัน หากเราจำเป็นต้องสร้างส่วนต่อเติมในพื้นที่ที่โดนแดดแรงนานๆ หลังคาทึบแสงจะตอบโจทย์เรื่องกันแดดกันร้อนได้ดีกว่า เพราะนอกจากแดดจะไม่ส่องโดยตรงแล้ว ยังสามารถติดตั้งฉนวนกันร้อนและกันเสียงใต้วัสดุมุงได้ด้วยโดยไม่ต้องคำนึงเรื่องความสวยงามจากภายนอก นอกจากนี้ วัสดุหลังคาทึบแสงมักมีราคาถูกกว่าหลังคาโปร่งแสง (เมื่อเทียบระดับคุณภาพการใช้งานที่ใกล้เคียงกัน)
อ่านถึงตรงนี้ หลายท่านคงพอได้แนวทางในการตัดสินใจแล้ว ว่าระหว่างหลังคาโปร่งแสงกับทึบแสง แบบไหนจะตอบโจทย์สำหรับส่วนต่อเติมของเราได้ดีกว่ากัน อย่างไรก็ตาม เจ้าของบ้านบางท่านอาจมีคำถามต่อว่า แล้ววัสดุที่จะมามุงนั้นเลือกแบบแผ่นเรียบหรือแผ่นลอนดี ก็นับเป็นอีกประเด็นน่าคิดที่ต้องหาคำตอบด้วยเช่นกัน
จะต่อเติมหลังคา ทำหลังคาใสหรือหลังคาทึบดี จะต่อเติมหลังคาโปร่งแสงหรือทึบแสงดีนั้น เจ้าของบ้านต้องตัดสินใจ โดยพิจารณาปัจจัยเรื่องการใช้งาน ทิศทางและปริมาณแดด รูปแบบที่ดูเข้ากับบ้าน รวมถึงข้อดีข้อเสียของหลังคาแต่ละแบบ