ซื้อสินค้า โทร. 02-1944899, 081-4563232

แก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง

แก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง

แก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง

(หมวด : ดูแลรักษา)

แก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง วิธีแก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผนังและพื้นบ้านชำรุดเสียหายได้ ดังนั้นหากพบน้ำรั่วซึมแล้วควรแก้ไขทันทีอย่าปล่อยทิ้งไว้นาน 

น้ำรั่วซึมเป็นหนึ่งในปัญหาที่เจ้าของบ้านหลายคนมักเผชิญ โดยเฉพาะในส่วนของหันท้าต่างที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างผนังและกรอบหน้าต่าง ซึ่งมักจะเกิดปัญหาน้ำซึมเข้าไปสะสมจนก่อให้เกิดความเสียหายทั้งในด้านโครงสร้างบ้านและสภาพแวดล้อมภายในบ้านเอง ความชื้นที่เกิดขึ้นจากน้ำรั่วซึมสามารถทำให้ผนังบวม เสื่อมสภาพ และยังส่งผลต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย เช่น การเกิดเชื้อราและกลิ่นอับชื้น นอกจากนี้หากปล่อยไว้นานเกินไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อโครงสร้างบ้านจนถึงขั้นต้องซ่อมแซมใหญ่ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง การทำความเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีการแก้ไขปัญหาน้ำรั่วซึมบริเวณหันท้าต่างจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าของบ้านควรให้ความสำคัญ

แก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง
ภาพ: น้ำรั่วขอบหน้าต่างจนทำให้ผนังด่างเป็นรอยน้ำไหล

ปัญหาน้ำรั่วซึมในบริเวณหันท้าต่างมักเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การติดตั้งกรอบหน้าต่างที่ไม่เหมาะสม การเลือกใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือรอยต่อระหว่างผนังกับกรอบหน้าต่างที่ไม่ได้รับการซีลอย่างดี อีกทั้งความเสียหายจากการแตกร้าวของผนังและการเสื่อมสภาพของวัสดุก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้น้ำสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ รวมถึงการขาดระบบระบายอากาศและระบายน้ำฝนที่มีประสิทธิภาพ บริเวณหันท้าต่างที่ไม่มีการระบายน้ำที่ดี น้ำฝนมักจะไหลย้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้เกิดปัญหาน้ำรั่วซึมและความชื้นสะสมอย่างต่อเนื่อง การแก้ไขปัญหาเหล่านี้จึงต้องอาศัยทั้งความรู้เรื่องโครงสร้างบ้านและการเลือกใช้วัสดุกันน้ำที่เหมาะสม

หน้าฝนกับประเทศไทยเป็นของคู่กันที่สุด และสิ่งที่จะตามมาให้ปวดหัวก็คือ น้ำท่วมบ้าน น้ำล้นโถชักโครก น้ำรั่วจากหลังคา น้ำฝนสาด น้ำรั่วจากขอบหน้าต่างจนนองพื้นเสียหาย ปัญหาสำหรับบ้านพักอาศัยที่อยู่มานานคงหนีไม่พ้นน้ำรั่วซึมที่ขอบหน้าต่าง ซึมน้อยบ้างมากบ้างจนเคยชินและมองข้ามไป ซึ่งหากทิ้งไว้นานก็อาจส่งผลเสียตามมา ได้แก่ ผนังด่างเป็นรอยไม่สวยงาม สีหลุดล่อนบวม ขึ้นรา และอาจเกิดปัญหาปลวกตามมา รวมไปถึงพื้นลามิเนต ไม้ปาร์เกต์ อื่นๆ ผุพังเพราะความชื้น

แก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง
ภาพ: น้ำรั่วขอบหน้าต่างแล้วทิ้งไว้นานจนทำให้ผนังขึ้นรา

เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำรั่วซึมบริเวณหันท้าต่างให้ได้ผล เจ้าของบ้านควรดำเนินการอย่างรอบคอบตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้าง โดยเลือกวัสดุกันน้ำคุณภาพดี ใช้วิธีติดตั้งกรอบหน้าต่างและซีลรอยต่ออย่างถูกต้อง รวมถึงติดตั้งระบบระบายน้ำและการระบายอากาศที่เหมาะสม นอกจากนี้การตรวจสอบบ้านอย่างสม่ำเสมอและซ่อมแซมทันทีที่พบปัญหาก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดความเสียหายและยืดอายุการใช้งานของบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกถึงสาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหาน้ำรั่วซึมบริเวณหันท้าต่างเพื่อให้บ้านของคุณปลอดภัยและคงทนในระยะยาว

เมื่อพบปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง อย่านิ่งนอนใจควรตรวจสอบหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไรเพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด ซึ่งส่วนใหญ่ปัญหาที่พบมักมี 3 สาเหตุ ดังนี้

แก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง

สาเหตุน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง

1. วัสดุและการติดตั้งไม่เหมาะสม

หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้น้ำรั่วซึมบริเวณหันท้าต่างเกิดขึ้นคือการใช้วัสดุที่ไม่เหมาะสมหรือคุณภาพต่ำ ซึ่งไม่สามารถป้องกันน้ำและความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ วัสดุบางประเภทอาจไม่ทนทานต่อสภาพอากาศ เช่น ความร้อน แสงแดด หรือฝน ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพและแตกร้าวได้ง่าย นอกจากนี้ การเลือกใช้วัสดุที่ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำหรือกันความชื้นก็จะทำให้น้ำสามารถซึมผ่านผนังหรือกรอบหน้าต่างเข้าสู่ภายในบ้านได้ การเลือกวัสดุที่ดีและเหมาะสมจึงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึม โดยเฉพาะในส่วนของซีลแลนท์กันน้ำ กรอบหน้าต่าง และวัสดุก่อสร้างรอบบริเวณหันท้าต่าง

นอกจากวัสดุที่ใช้แล้ว การติดตั้งที่ไม่ถูกต้องก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำรั่วซึมเกิดขึ้น แม้ว่าวัสดุจะมีคุณภาพดีแค่ไหน แต่หากการติดตั้งไม่แน่นหนาหรือไม่มีการปิดรอยต่ออย่างเหมาะสม น้ำฝนก็สามารถเล็ดลอดผ่านช่องว่างระหว่างผนังกับกรอบหน้าต่างได้ การละเลยการตรวจสอบความเรียบร้อยของงานติดตั้งหรือการใช้เทคนิคการซีลที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลให้น้ำซึมเข้าสู่ตัวบ้านได้ง่าย การติดตั้งที่ดีต้องครอบคลุมทุกจุดที่เป็นรอยต่อ มีการปิดผนึกอย่างแน่นหนาและเลือกใช้วัสดุเสริม เช่น แผ่นกันซึมหรือเทปกันน้ำ เพื่อช่วยป้องกันการรั่วซึมอย่างมีประสิทธิภาพ

แก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง

2. รอยต่อระหว่างผนังและกรอบหน้าต่าง

รอยต่อระหว่างผนังและกรอบหน้าต่างเป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดในการเกิดปัญหาน้ำรั่วซึม เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมต่อที่วัสดุต่างชนิดกันมารวมตัวกัน เช่น ผนังปูนและกรอบหน้าต่างที่มักทำจากวัสดุอย่างไม้หรืออลูมิเนียม หากไม่มีการซีลหรือปิดรอยต่ออย่างถูกวิธี น้ำฝนจะสามารถซึมผ่านช่องว่างเหล่านี้เข้าสู่ตัวบ้านได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนตกหนักหรือลมพัดแรง ทำให้ความชื้นสะสมเกิดความเสียหายต่อผนังทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงส่งผลต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย

แก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง
ภาพ: น้ำรั่วขอบหน้าต่างแล้วทิ้งไว้นานจนทำให้ผนังขึ้นรา

การแก้ไขปัญหารอยต่อระหว่างผนังและกรอบหน้าต่างจึงต้องให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุซีลที่มีคุณภาพสูงและทนทานต่อสภาพอากาศ เช่น ซีลแลนท์กันน้ำชนิดพิเศษ และการติดตั้งที่ต้องแน่นหนาไม่มีช่องว่าง นอกจากนี้ยังควรติดตั้งวัสดุกันซึมหรือแผ่นฟลาชซิ่ง (Flashing) เพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนเข้ารอยต่ออีกชั้นหนึ่ง การตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอก็สำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้รอยต่อเสื่อมสภาพและเกิดน้ำรั่วซึมตามมาในอนาคต

แก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง

3. ความเสียหายของผนังและกรอบหน้าต่าง

ความเสียหายของผนังและกรอบหน้าต่างเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำรั่วซึมเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างง่ายดาย เมื่อผนังเกิดรอยแตกร้าวหรือผิววัสดุเสื่อมสภาพ เช่น ปูนหลุดล่อน หรือผิววัสดุไม้กรอบหน้าต่างผุพัง น้ำฝนสามารถซึมผ่านช่องว่างเหล่านี้เข้าสู่โครงสร้างภายในบ้านได้ ความเสียหายเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลให้เกิดความชื้นและน้ำรั่วเท่านั้น แต่ยังทำให้โครงสร้างบ้านอ่อนแอลงในระยะยาว หากปล่อยทิ้งไว้อาจนำไปสู่ปัญหาที่รุนแรงกว่า เช่น การผุกร่อนของโครงเหล็กภายในผนัง หรือเชื้อราที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย

กรอบหน้าต่างที่ได้รับความเสียหาย เช่น รอยแตกหรือการบิดงอจากความชื้นและการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ จะทำให้การปิดผนึกระหว่างกรอบและผนังไม่สมบูรณ์ น้ำจึงสามารถไหลเข้าสู่ตัวบ้านผ่านช่องว่างเหล่านี้ได้ การซ่อมแซมกรอบหน้าต่างที่เสียหายและการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมและรักษาคุณภาพของบ้านให้อยู่ในสภาพดีและปลอดภัย

4. การระบายอากาศที่ไม่ดีบริเวณรอบหน้าต่าง

การระบายอากาศที่ไม่ดีบริเวณรอบหน้าต่างหรือผนังบ้านส่งผลให้ความชื้นสะสมอยู่ภายในพื้นที่นั้น ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำรั่วซึมและปัญหาความชื้นภายในบ้านเพิ่มขึ้น หากไม่มีการระบายอากาศที่เหมาะสม ความชื้นจะไม่สามารถระบายออกไปได้ ทำให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ ความชื้นสะสมยังทำให้วัสดุก่อสร้างเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ส่งผลให้ผนังและกรอบหน้าต่างมีโอกาสเสียหายและน้ำรั่วซึมมากขึ้นตามมา

ส่วนระบบระบายน้ำฝนที่ไม่ดี เช่น ไม่มีการติดตั้งรางน้ำฝนหรือรางน้ำฝนมีขนาดเล็กเกินไป ทำให้น้ำฝนไหลลงมาไม่ทันและล้นลงสู่บริเวณรอบหน้าต่างอย่างต่อเนื่อง น้ำที่สะสมนี้จะทำให้ผนังและรอยต่อระหว่างผนังกับกรอบหน้าต่างถูกน้ำเปียกอยู่ตลอดเวลา เพิ่มความเสี่ยงที่น้ำจะซึมผ่านเข้ามาในบ้าน การออกแบบระบบระบายน้ำฝนและการระบายอากาศที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมและรักษาคุณภาพบ้านให้อยู่ในสภาพดีตลอดไป

5. ปัญหาจากเสาเอ็นคานเอ็น

ปัญหาจากเสาเอ็นและคานเอ็นเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้น้ำรั่วซึมและความเสียหายของโครงสร้างบ้าน โดยเฉพาะในบริเวณรอบหน้าต่างและผนัง เนื่องจากเสาเอ็นและคานเอ็นเป็นส่วนที่รับน้ำหนักและเชื่อมต่อระหว่างโครงสร้างต่าง ๆ ของบ้าน หากเกิดรอยแตกร้าวหรือความเสียหายจากการเสื่อมสภาพของวัสดุ เช่น คอนกรีตผุกร่อนหรือเหล็กภายในคานเกิดสนิม จะทำให้เกิดช่องว่างและรอยร้าวที่น้ำสามารถเล็ดลอดเข้าไปได้ นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวของโครงสร้างบ้านเมื่อเวลาผ่านไป เช่น การทรุดตัวหรือการขยายตัวจากสภาพอากาศ ยังส่งผลให้รอยร้าวในเสาและคานขยายเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นช่องทางให้น้ำรั่วซึมเข้าสู่ภายในบ้านได้ง่ายขึ้น

การแก้ไขปัญหานี้จำเป็นต้องมีการตรวจสอบโครงสร้างเสาเอ็นและคานเอ็นอย่างละเอียด เพื่อประเมินความเสียหายและซ่อมแซมอย่างถูกวิธี เช่น การอุดรอยแตกร้าวด้วยวัสดุกันซึม การเสริมแรงด้วยวัสดุพิเศษ หรือในกรณีที่รุนแรงอาจต้องเปลี่ยนโครงสร้างบางส่วน เพื่อป้องกันน้ำรั่วซึมและรักษาความมั่นคงแข็งแรงของบ้านในระยะยาว การบำรุงรักษาและตรวจเช็คโครงสร้างอย่างสม่ำเสมอก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดปัญหาดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก

ภาพ: ผนังตรงมุมหน้าต่างแตกร้าวทำให้น้ำซึมเข้ามาได้

แก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง

6. ปัญหาจากการติดตั้งและการเตรียมหน้างาน

ปัญหาจากการติดตั้งและการเตรียมหน้างานที่ไม่ดีถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้น้ำรั่วซึมบริเวณรอบหน้าต่างเกิดขึ้นได้ง่าย การเตรียมหน้างานที่ไม่รอบคอบ เช่น การทำความสะอาดพื้นผิวผนังหรือกรอบหน้าต่างไม่ดีพอ ทำให้วัสดุกันซึมและซีลแลนท์ไม่สามารถยึดติดกับพื้นผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเตรียมพื้นผิวที่ไม่เรียบเนียนหรือมีสิ่งสกปรกตกค้าง ก็เป็นสาเหตุให้เกิดช่องว่างและรอยรั่วที่น้ำสามารถซึมผ่านเข้าไปได้ เมื่อช่างติดตั้งไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนหรือใช้วัสดุไม่เหมาะสม ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหาน้ำรั่วซึมในอนาคต

อีกทั้งการติดตั้งกรอบหน้าต่างที่ไม่ตรงตามมาตรฐานหรือไม่มีการปิดผนึกรอยต่ออย่างถูกต้อง ยังทำให้น้ำฝนสามารถไหลผ่านช่องว่างระหว่างผนังและกรอบหน้าต่างเข้าสู่ตัวบ้านได้ง่าย การติดตั้งที่ผิดพลาดนี้มักเกิดจากการเร่งรีบ ขาดความชำนาญ หรือไม่มีการตรวจสอบงานอย่างละเอียดก่อนส่งมอบ การแก้ไขปัญหานี้จึงต้องเน้นที่การเตรียมหน้างานอย่างถูกต้อง การใช้วัสดุคุณภาพดี รวมถึงการติดตั้งอย่างมืออาชีพและตรวจสอบงานทุกขั้นตอน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำรั่วซึมและรักษาคุณภาพของบ้านให้มั่นคงและยาวนาน

ภาพ: ตัวอย่างขอบผนังรอบวงกบ (จับเซี้ยม) สำหรับการติดตั้งหน้าต่าง

แก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง

3. ปัญหาจากยาแนวเสื่อมคุณภาพ

ยาแนวในที่นี้หมายถึงตัวจบรอยต่อของผนังปูนกับวงกบหน้าต่าง ไม่ว่าจะเป็นวงกบอะลูมิเนียม วงกบไวนิล วงกบไม้ และวงกบเหล็ก ล้วนต้องยาแนวรอยต่อเพื่อปิดแนวให้แนบสนิท ซึ่งต้องเลือกวัสดุยาแนวให้เหมาะสม มีความยืดหยุ่นดี เพื่อป้องกันน้ำรั่วซึมบริเวณรอยต่อ รวมไปถึงซีลยางระหว่างกระจกกับวงกบที่อาจเสื่อมอายุการใช้งานก็ทำให้น้ำซึมเข้ามาได้เช่นกัน

ปัญหาจากยาแนวเสื่อมคุณภาพเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำรั่วซึมบริเวณรอบหน้าต่างเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย ยาแนวที่ใช้ในการปิดรอยต่อระหว่างผนังและกรอบหน้าต่าง หากมีคุณภาพต่ำ หรือถูกติดตั้งอย่างไม่เหมาะสม จะทำให้เกิดการแตกร้าวหรือหลุดล่อนเมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโดนแสงแดดจัดหรือความชื้นสูงอย่างต่อเนื่อง ยาแนวเสื่อมสภาพนี้ไม่สามารถป้องกันน้ำได้ดีเหมือนเดิม ส่งผลให้น้ำฝนสามารถซึมผ่านรอยต่อเหล่านี้เข้าสู่ตัวบ้านได้ นอกจากนี้ การเลือกใช้ยาแนวที่ไม่เหมาะสมกับวัสดุหรือสภาพอากาศก็เพิ่มโอกาสในการเกิดปัญหาน้ำรั่วซึมอย่างรวดเร็ว

เมื่อยาแนวเสื่อมคุณภาพ การซ่อมแซมและบำรุงรักษาจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจลุกลามไปยังส่วนอื่นของบ้าน การรื้อยาแนวเก่าออกและทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาดก่อนทำการยาแนวใหม่ด้วยวัสดุคุณภาพสูงและเหมาะสม จะช่วยคืนประสิทธิภาพในการกันน้ำได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบยาแนวอย่างสม่ำเสมอและซ่อมแซมทันทีที่พบรอยแตกร้าวหรือหลุดล่อน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำรั่วซึมและช่วยยืดอายุการใช้งานของผนังและกรอบหน้าต่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภาพ: ซิลิโคนยาแนวหลุดล่อน
ภาพ: ซีลยางระหว่างกระจกกับวงกบเสื่อมคุณภาพ

วิธีแก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง

หากเราพบสาเหตุของปัญหาดังกล่าวข้างต้นแล้ว ควรจะแก้ไขให้ตรงจุด ถ้าเป็นปัญหาจากโครงสร้าง หรือการติดตั้งหน้าต่างที่ไม่ได้มาตรฐาน แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือผู้รับเหมาเข้ามาแก้ไข แต่หากมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ ต้องใช้เวลานาน หรือยังหาผู้รับเหมาที่ชำนาญไม่ได้ อาจบรรเทาไปก่อนด้วยการติดตั้งหลังคากันสาดที่หาซื้อมาติดตั้งได้เองหรือให้ช่างติดตั้งให้

ปัญหาน้ำรั่วซึมบริเวณขอบหน้าต่างถือเป็นเรื่องที่เจ้าของบ้านหลายคนต้องพบเจอและสร้างความกังวลใจอย่างมาก เนื่องจากขอบหน้าต่างเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างผนังและกรอบหน้าต่างที่มีโอกาสเกิดรอยต่อและช่องว่างเล็กๆ ที่น้ำฝนสามารถเล็ดลอดผ่านเข้ามาได้ หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดความเสียหายทั้งผนังด้านในและโครงสร้างบ้าน รวมถึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยจากความชื้นและเชื้อราที่ตามมา การเข้าใจถึงวิธีการแก้ไขปัญหาน้ำรั่วซึมอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อรักษาคุณภาพบ้านและลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว

การแก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่างไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก หากรู้วิธีและเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม การเตรียมพื้นผิวและการปิดผนึกรอยต่อด้วยวัสดุกันซึมที่มีคุณภาพสูง รวมถึงการตรวจสอบระบบระบายน้ำฝนและการระบายอากาศบริเวณรอบหน้าต่าง จะช่วยลดปัญหาน้ำซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การบำรุงรักษาและตรวจเช็คขอบหน้าต่างอย่างสม่ำเสมอก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัยจากน้ำรั่วซึมและคงทนยาวนานมากขึ้น

ภาพ: ติดตั้งหลังคากันสาดเพื่อป้องกันฝนสาดเข้าหน้าต่าง

สำหรับการแก้ปัญหายาแนวเสื่อมคุณภาพ ให้พิจารณาว่าเป็นการแก้ไขภายในหรือภายนอกอาคาร วัสดุวงกบเป็นอะไร เช่น อะลูมิเนียม ไม้ ไวนิล เหล็ก เพื่อเลือกใช้วัสดุยาแนวให้เหมาะสม ซึ่งมีอยู่ 4 ชนิด ดังนี้

ยาแนวอะคริลิก (Acrylic)

หรือที่เรียกว่า แด๊ป เป็นวัสดุกลุ่มไฮโดรคาร์บอน มีความยืดหยุ่นน้อย ใช้น้ำเป็นตัวทำละลายจึงไม่ควรติดตั้งในขณะที่พื้นที่นั้นเปียกชื้น แต่หากแข็งตัวแล้วจะไม่ละลายน้ำ เหมาะกับงานปิดรอยต่อ เพราะสามารถขัดแต่งผิวงานและทาสีทับได้ แต่ไม่ทนต่อรังสี UV จึงไม่ควรใช้ภายนอกอาคาร

การแก้ไขปัญหาน้ำรั่วซึมบริเวณขอบหน้าต่างโดยใช้ยาแนวอะคริลิก (Acrylic Sealant) เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากมีความยืดหยุ่นดี ยึดเกาะกับพื้นผิวหลากหลายประเภท เช่น ปูน ไม้ กระจก หรืออลูมิเนียม และสามารถทาสีทับได้ ช่วยให้เข้ากับพื้นผิวรอบข้างอย่างกลมกลืน การใช้งานไม่ยุ่งยาก สามารถอุดรอยร้าว รอยต่อ หรือช่องว่างที่อาจเกิดจากการติดตั้งหน้าต่างผิดพลาด หรือการทรุดตัวของตัวอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะบริเวณที่ไม่โดนฝนตลอดเวลา เพราะยาแนวชนิดนี้ทนแดดได้ดี แต่ไม่ทนการแช่น้ำต่อเนื่อง

การใช้งานควรเริ่มจากการทำความสะอาดพื้นผิวบริเวณขอบหน้าต่างให้แห้งและปราศจากฝุ่น คราบน้ำมัน หรือเศษวัสดุเดิม จากนั้นจึงใช้ปืนยิงยาแนวอะคริลิกอัดตามรอยรั่วหรือช่องว่างให้เต็ม แล้วเกลี่ยผิวให้เรียบเสมอกัน ควรปล่อยให้แห้งสนิทอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนโดนน้ำ เพื่อให้ยาแนวยึดเกาะได้ดีที่สุด ในกรณีที่ต้องการความสวยงาม สามารถทาสีทับเมื่อแห้งแล้วได้ การเลือกใช้ยาแนวอะคริลิกคุณภาพดีจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ จะช่วยยืดอายุการป้องกันน้ำรั่วซึมได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยในระยะยาว

ยาแนวซิลิโคน (Silicone)

วัสดุเป็นโพลิเมอร์ ที่มีเนื้อเป็นเจลกึ่งเหลว มีความยืดหยุ่นสูง และทนต่อรังสี UV จึงสามารถใช้ภายนอกอาคารได้ ไม่สามารถทาสีทับได้ แต่มีให้เลือกใช้ 3 สี ได้แก่ สีใสใช้กับกระจก สีขาวใช้กับงานสุขภัณฑ์ และสีดำใช้กับพื้นผิวสีเข้ม ยาแนวซิลิโคนมี 2 ประเภท คือ (1)ยาแนวซิลิโคนแบบมีกรด กลิ่นฉุน แห้งเร็ว มีแรงยึดเกาะสูง เหมาะกับงานปิดรอยต่อระหว่างกระจกกับกระจก แต่ไม่เหมาะกับวัสดุกลุ่มโลหะ เซรามิก และหิน (2)ยาแนวซิลิโคนแบบไม่มีกรด แห้งช้ากว่า มีแรงยึดเกาะน้อยกว่า แต่มีความยืดหยุ่นมากกว่า ใช้งานได้กับวัสดุ ได้แก่ คอนกรีต อิฐ ไม้ เซรามิก และอะลูมิเนียม

การแก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่างด้วยยาแนวซิลิโคน (Silicone Sealant) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากซิลิโคนมีคุณสมบัติทนทานต่อความชื้น อุณหภูมิสูง และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับใช้บริเวณที่ต้องเผชิญกับน้ำหรือความชื้นโดยตรง เช่น ขอบหน้าต่างหรือวงกบที่อยู่ภายนอกอาคาร โดยก่อนเริ่มงานจำเป็นต้องทำความสะอาดพื้นผิวให้แห้ง สะอาด ปราศจากฝุ่น คราบมัน หรือคราบเก่ายาแนวเดิม เพื่อให้ซิลิโคนสามารถยึดเกาะกับพื้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อพื้นผิวพร้อมแล้ว ให้ใช้ปืนยิงซิลิโคน (Caulking Gun) ยิงยาแนวตลอดแนวรอยต่อระหว่างกรอบหน้าต่างกับผนัง โดยพยายามให้แนวยาแนวมีความสม่ำเสมอ และลึกพอประมาณ จากนั้นใช้นิ้วที่ชุบน้ำสบู่หรืออุปกรณ์เกลี่ยยาแนวแต่งให้เรียบเนียน ปิดทับรอยต่อให้สนิท ป้องกันน้ำซึมได้อย่างมั่นใจ หลังจากนั้นปล่อยให้แห้งตามเวลาที่ผู้ผลิตแนะนำ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ในช่วง 12-24 ชั่วโมง การเลือกใช้ซิลิโคนเกรดดี และเหมาะกับงานภายนอกโดยเฉพาะ จะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดปัญหาน้ำรั่วซึมซ้ำซ้อนในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ยาแนวโพลียูรีเทน (Poly Urethane)

หรือที่เรียกว่า PU มีความยืดหยุ่นสูงกว่าซิลิโคน แห้งเร็ว แห้งแล้วไม่หดตัว ทนต่อรังสี UV จึงสามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ทาสีทับได้ เหมาะกับงานรอยต่อระหว่างโครงสร้างของอาคาร ปิดรอยต่อเมทัลชีท อุดรอยต่อกระเบื้องมุงหลังคา ใช้ยาแนวกระเบื้องเซรามิก หิน สุขภัณฑ์ เป็นต้น

การใช้ยาแนวโพลียูรีเทน (PU) เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงในการแก้ไขปัญหาจากยาแนวเสื่อมคุณภาพ โดยยาแนวประเภทนี้มีความยืดหยุ่นและการยึดเกาะสูง สามารถทนต่อแรงเคลื่อนไหวของรอยต่อได้ดี ทั้งยังทนแดด ทนน้ำ และสารเคมีบางชนิด จึงเหมาะสำหรับงานยาแนวในพื้นที่ภายนอกอาคาร เช่น ขอบวงกบหน้าต่าง รอยต่อผนัง-พื้น หรือขอบรอยต่อหลังคา ที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้นอยู่เสมอ

ก่อนใช้งานควรทำความสะอาดพื้นผิวให้แห้ง ปราศจากฝุ่น คราบน้ำมัน หรือเศษวัสดุเก่า จากนั้นบีบยาแนวลงไปในร่องรอยต่อ และใช้เกรียงเกลี่ยให้เรียบสม่ำเสมอ พื้นผิวที่ยาแนวควรแห้งสนิทภายใน 24-48 ชั่วโมงตามสภาพอากาศ ยาแนวโพลียูรีเทนสามารถทาสีทับได้หลังจากแห้งแล้ว ช่วยให้การซ่อมแซมกลมกลืนกับพื้นผิวเดิม และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ายาแนวชนิดอื่น

 
Ask ChatGPT

ยาแนวโมดิฟายซิลิโคน (Modified Silicone)

ยาแนวชนิดโมดิฟายซิลิโคน (Modified Silicone Sealant) หรือที่เรียกกันในเชิงเทคนิคว่า MS Polymer เป็นวัสดุยาแนวที่ผสมผสานข้อดีของซิลิโคนและโพลียูรีเทนเข้าด้วยกัน ทำให้มีคุณสมบัติเหนียว ยืดหยุ่นสูง ยึดเกาะได้ดีเยี่ยมกับหลายพื้นผิว เช่น คอนกรีต อลูมิเนียม กระจก โลหะ ไม้ และวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ โดยไม่ต้องใช้ไพรเมอร์ และยังสามารถทาสีทับได้ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ทนต่อรังสี UV ความชื้น และการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ

ก่อนการใช้งาน ควรทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่น คราบน้ำมัน หรือสิ่งสกปรกอื่น ๆ จากนั้นจึงใช้ปืนยิงยาแนวอัดยาแนวลงในรอยต่อหรือรอยร้าวให้เต็มแน่น และเกลี่ยผิวให้เรียบภายในระยะเวลาที่วัสดุยังไม่เซตตัว ยาแนวโมดิฟายซิลิโคนจะเซตตัวโดยสมบูรณ์ภายใน 24–48 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความหนาและสภาพอากาศ) แนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำหรือแรงกระแทกในช่วงที่ยังไม่แห้งสนิท เหมาะสำหรับงานยาแนวรอยต่อภายนอกอาคาร เช่น ช่องรอยต่อผนังอาคาร กันสาด หลังคา หรือรอยต่อวัสดุต่างชนิดที่มีการเคลื่อนไหว

เมื่อเลือกยาแนวได้เหมาะสมกับการใช้งานแล้ว ให้ลอกยาแนวเดิมออกให้หมดก่อน แล้วเป่าหรือเช็ดแห้งทำความสะอาดให้เรียบร้อย เพราะอาจมีฝุ่นผงปูนส่งผลให้ยาแนวไม่เกาะผิววัสดุ แล้วจึงยาแนวใหม่ สำหรับวงกบไม้หากขูดลอกยาแนวแล้วพบว่ามีสภาพผุพังเนื่องจากอมน้ำมานานควรเปลี่ยนวงกบไม้ใหม่เสียก่อน เพราะไม้ที่มีความชื้นสะสมจะผุพังลงไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะมีการซ่อมยาแนวแล้วก็ตามทำให้น้ำกลับมารั่วซึมได้เช่นเคย

ภาพ: ลอกยาแนวเดิมออกให้หมด แล้วปัดฝุ่นผงปูนออก
ภาพ: ยิงยาแนวใหม่ให้ปริมาณพอดีกับแนวร่อง
ภาพ: ใช้เกรียงปาดยาแนว และเช็ดยาแนวส่วนที่เกินออกมาด้วยผ้าชุบน้ำหมาด
ภาพ: ตัวอย่างการยาแนวกับวัสดุต่างๆ

อย่างที่กล่าวมานั้ำรั่วซึมขอบหน้าต่างอาจมองเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แก้ปัญหาเพียงใช้ผ้าเช็ดน้ำเป็นครั้งครา แต่หากทิ้งไว้นานจากเรื่องเล็กอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ เกิดการสะสมความชื้นที่ผนัง ทำให้สีด่าง ขึ้นรา วอลเปเปอร์หลุดล่อน ซ้ำร้ายหากน้ำรั่วซึมจนไหลลงพื้นยังส่งผลให้พื้นไม้หรือลามิเนตบวมหลุด เกิดความชื้นสะสมจนต้องรื้อพื้นจนต้องแก้ไขบานปลาย ดังนั้นหมั่นดูแล ตรวจสอบและแก้ไขให้ตรงจุด เลือกยาแนวที่เหมาะสมกับวัสดุวงกบเพื่อให้ใช้งานได้ยาวนาน หมดกังวลไม่ว่าจะฝนนี้ หรือฝนถัดไป

สรุปภาพรวมปัญหา

1. ปัญหาที่พบจากเสาเอ็นและคานเอ็น

ประเภทปัญหารายละเอียด
1.1 รอยแตกร้าวแนวรอยต่อเกิดที่จุดเชื่อมระหว่างเสาเอ็น-ผนัง หรือ คานเอ็น-ผนัง ซึ่งเป็นแนวรอยต่อของวัสดุต่างชนิด เช่น คอนกรีตกับอิฐ
1.2 น้ำรั่วซึมจากรอยต่อเมื่อเกิดรอยร้าวแล้วไม่ได้รับการแก้ไข น้ำฝนหรือน้ำจากภายนอกสามารถซึมผ่านเข้ามาภายในอาคารได้
1.3 คราบสกปรก & เชื้อราน้ำซึมสะสมทำให้เกิดคราบบนผนังด้านในและด้านนอก และอาจเกิดเชื้อรา
1.4 สีลอกล่อน & ฉาบโป๊วพังสีหรือวัสดุตกแต่งผิวหน้า เช่น ฉาบบาง โป๊วผนัง เริ่มลอกหรือร่อนออก
1.5 ความเสียหายโครงสร้างรองในกรณีปล่อยไว้นาน อาจส่งผลให้โครงสร้างไม้อัด ฝ้า หรือบัวพื้นเกิดการบวมและพัง

2. วิธีการแก้ไข (ขึ้นกับลักษณะรอยร้าว)

ลำดับแนวทางการแก้ไขวัสดุที่ใช้คุณสมบัติเด่นหมายเหตุ
2.1ทำความสะอาดร่องรอยร้าวแปรงลวด / เครื่องขูดเปิดหน้ารอยร้าวให้สะอาด พร้อมสำหรับการอุดควรลึกพอให้วัสดุยาแนวเกาะได้ดี
2.2อุดรอยต่อด้วยวัสดุยาแนวยาแนวซิลิโคน (Silicone Sealant)ยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับภายใน-ภายนอกควรเลือกชนิด Neutral Cure
2.3อุดรอยต่อด้วยวัสดุทางเลือกยาแนวโพลียูรีเทน (PU Sealant)ทนแรงดึงสูง เหมาะกับรอยต่อที่เคลื่อนไหวใช้ในงานโครงสร้างหนัก หรือภายนอก
2.4ทางเลือกทันสมัยยาแนว Modified Silicone (MS Sealant)รวมข้อดีของซิลิโคนและ PU ยึดเกาะดี ทน UVเหมาะกับงานอเนกประสงค์ คุณภาพสูง
2.5ปิดผิวแต่งงานสีทารอยต่อ / สีทับหน้าปกปิดรอย และกันน้ำซึมซ้ำใช้สีกันรั่วซึมหรือสีสำหรับภายนอกโดยเฉพาะ
2.6ป้องกันในอนาคตติดตั้งวัสดุปิดรอยต่อ เช่น แถบ PVC / Corner Stripช่วยลดแรงตึงผิวใช้คู่กับยาแนวจะเห็นผลดีขึ้น

ข้อควรระวัง / ข้อแนะนำเพิ่มเติม

  • ตรวจสอบรอยต่อทุก 6 เดือนโดยเฉพาะจุดที่รับน้ำฝนบ่อย

  • ห้ามใช้ ซีเมนต์ หรือวัสดุแข็งอุดรอยต่อของวัสดุต่างชนิด

  • กรณีมีรอยร้าวโครงสร้าง ควรปรึกษาวิศวกรก่อนซ่อมเอง

  • เลือกใช้ยาแนวที่ ยืดหยุ่นได้ตลอดอายุการใช้งาน (มีค่าการยืดตัวสูงกว่า 25%)

เสาเอ็นคานเอ็น แม้จะช่วยเสริมความแข็งแรงของผนัง แต่ก็เป็นจุดอ่อนที่เกิดรอยร้าวและน้ำรั่วได้ง่าย เพราะเป็นรอยต่อของวัสดุต่างชนิด การป้องกันและแก้ไขอย่างเหมาะสมด้วยวัสดุยาแนวคุณภาพ เช่น ซิลิโคน, PU หรือ MS Sealant จะช่วยยืดอายุการใช้งานและป้องกันปัญหาซ้ำซ้อนในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Housing Expert By SCG
หจก.ต.วิวัฒน์ค้าวัสดุภัณฑ์ (1987)
เลขที่ 56 ถนนพิบูลสงคราม ตำบลเมืองใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัด นนทบุรี 11000
SCG Authorized Dealer ตัวแทน จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง สี เคมีภัณฑ์ คุณภาพ

จำหน่ายสินค้า วัสดุก่อสร้างทุกชนิด เหล็ก อิฐ หิน ปูน ทราย ไม้พื้น ระแนง กระเบื้องปูพื้น หลังคา กระเบื้องหลังคา รางน้ำฝน แลนด์สเคป ยิปซั่ม สมาร์ทบอร์ด ซีเมนต์บอร์ด ประตู หน้าต่าง สุขภัณฑ์ ไฟฟ้า ประปา สี เคมีภัณฑ์ เครื่องมือช่าง ฯลฯ จัดจำหน่าย ค้าปลีก , ค้าส่ง และโครงการ

ติดตาม
Facebook : หจก. ต.วิวัฒน์ค้าวัสดุภัณฑ์ 1987 จำกัด

เชิญชมตัวอย่างสินค้าได้ที่ร้าน

หจก. ต.วิวัฒน์ค้าวัสดุภัณฑ์ (1987)

TOWIWAT HOUSING EXPERT BY SCG

สอบถามข้อมูลสินค้าและบริการ
Line : @towiwat
02-1944899 ,02-1499344

โพสต์นี้มีความคิดเห็นเดียว

  1. แก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง วิธีแก้ปัญหาน้ำรั่วซึมขอบหน้าต่าง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผนังและพื้นบ้านชำรุดเสียหายได้ ดังนั้นหากพบน้ำรั่วซึมแล้วควรแก้ไขทันทีอย่าปล่อยทิ้งไว้นาน

ใส่ความเห็น

×
โปรโมชั่นบ้านและสวนแฟร์