ปรับบ้าน ในยุคนี้อย่างไรให้ ปลอดภัย อยู่ได้ไร้กังวล
“ปรับบ้าน” ในยุคนี้อย่างไรให้ ปลอดภัย อยู่ได้ไร้กังวล เริ่มต้นที่การปรับบ้านให้อากาศดี ด้วยระบบกรองฝุ่นเข้าบ้านอย่างยั่งยืน
การ “ปรับบ้าน” ให้อยู่สบายกลายเป็นหัวใจสำคัญของเจ้าของบ้านหลายคน เพราะบ้านไม่ใช่แค่สถานที่พักผ่อนก่อนออกไปใช้ชีวิตภายนอกอีกต่อไป แต่สถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งปัญหาเชื้อโรค ฝุ่น PM2.5 รวมไปถึง กลุ่มไวรัสโคโรน่า ที่ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยต้องปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และบ้านต้องกลายเป็นทั้งพื้นที่ Work from Home และ Study from Home ของเราและคนที่เรารัก การปรับบ้านให้อยู่สบาย ป้องกันฝุ่น กันเชื้อโรค กรองอากาศดีเข้าบ้าน เพื่อตอบโจทย์ทุกมิติจึงเป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านต้องใส่ใจ
“ปัญหาอากาศไม่ดีในบ้าน” ทำร้ายผู้อยู่อาศัยได้มากกว่าที่คิด
สิ่งที่ทำลายอากาศดีภายในบ้าน และส่งผลกระทบต่อสุขภาพคือปัญหามลภาวะ โดยเฉพาะฝุ่นขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 เนื่องจากมีขนาดเล็ก จึงเข้าไปลึกถึงทางเดินหายใจและปอดทำให้ระบบทางเดิน ช่องจมูก และตาเสียหาย หรือเกิดอาการแสบจมูก ระคายเคือง ไอ มีเสมหะ
ในระยะยาวอาจถึงขั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือชีวิต โดยทำให้เป็นโรคระบบทางเดินหายใจอย่างโรคหอบหืด โรคภูมิแพ้และนำไปสู่อันตรายสูงสุดถึงโรคหัวใจวายเฉียบพลัน หลอดเลือดสมองตีบ และมะเร็งปอด ฝุ่น PM2.5 จึงไม่ได้เป็นอันตรายเฉพาะนอกบ้าน แต่บั่นทอนคุณภาพชีวิตเราและคนที่เรารักในบ้านได้ด้วย
นอกจากฝุ่น PM2.5 แล้ว “เชื้อโรคในอากาศ” ถือเป็นภัยเงียบที่ส่งผลร้ายแรงต่อผู้อยู่อาศัย โดยเชื้อโรคในอากาศ ทั้งโคโรนาไวรัส และแบคทีเรียนั้นไม่สามารถเห็นด้วยตาเปล่า แต่ทำอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ นอกจากนี้กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขยังรายงานเพิ่มเติมว่าอากาศในบ้านที่ไม่ถ่ายเททำให้เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อยู่ได้นานขึ้น และแพร่กระจายในระยะมากกว่า 2 เมตรได้ ปัญหาเชื้อโรคทางอากาศที่มองไม่เห็น แต่ลอยอยู่ภายในบ้านจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แต่เป็นภัยเงียบที่ร้ายแรง
นอกจากมลภาวะจะทำลายระบบทางเดินหายใจ บ้านที่มีอากาศไม่เหมาะสมยังส่งผลต่อการนอนหลับพักพ่อนที่เพียงพออีกด้วย เพราะตัวบ้านสะสมอากาศที่ไม่ดี ไม่สามารถกรองเชื้อโรค และระบายอากาศเสีย ออกจากบ้านได้ โดยการนอนที่ไม่มีคุณภาพ ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยเผชิญความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพมากกว่าหรือเท่ากับผู้สูบบุหรี่ ผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูงและผู้เป็นโรคหัวใจได้ ซึ่งสาเหตุหนึ่งของการนอนหลับไม่มีคุณภาพคือปริมาณ Co2 สะสมภายในบ้านนั่นเอง
หากต้องการปรับบ้านให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตปัจจุบัน ที่เราต้องอยู่ในบ้านนานกว่าที่เคย และอยู่ด้วยสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง การมองหาทางออกที่ช่วยสร้างอากาศดีในบ้าน กำจัด PM2.5 และเชื้อโรคนานาชนิด รวมถึงจัดการปริมาณ Co2 เพื่อเสริมคุณภาพการนอนจึงเป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ
Active AIR Quality ทางออกของอากาศสะอาดและปลอดภัยในบ้าน
ปัจจุบันมีทางออกเพื่อแก้ไขปัญหา และตอบโจทย์อากาศดี ๆ ในบ้านเพิ่มขึ้น สำหรับเจ้าของบ้านที่ต้องการปรับอากาศในบ้านให้สะอาดและปลอดภัยตั้งแต่แรกที่เข้าสู่ตัวบ้าน โดยไม่ต้องตามแก้ปัญหาปลายเหตุ “SCG Active AIR Quality” ถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยแก้ปัญหามลภาวะในบ้านอย่างยั่งยืน ด้วยการกรองอากาศดีเข้าบ้านตั้งแต่แรก สร้างให้อากาศเป็น “Positive Pressure” เพื่อให้อากาศเสียถูกดันออกทางช่องว่างต่างๆของบ้าน จนทำให้มลภาวะนอกบ้าน ไม่สามารถเข้าสู่ภายในบ้านได้ ซึ่งเป็นหลักการทำงานที่แตกต่างกับเครื่องฟอกอากาศทั่วไป
SCG Active AIR Quality
คือนวัตกรรมใหม่ล่าสุด จากเอสซีจี ที่ช่วยจัดการคุณภาพอากาศภายในบ้าน* โดยใช้หลักการสร้าง Positive Pressure กรองอากาศดีเข้าบ้านผ่านอุปกรณ์ Supply Air Ventilator จากนั้นระบบกรอง ซึ่งประกอบไปด้วย แผ่นกรองทั้งหมด 3 ชั้น ได้แก่ แผ่นกรอง HEPA, แผ่นกรองคาร์บอน และแผ่นกรองหยาบ
• โดยแผ่นกรอง HEPA13 คุณภาพสูง กรอง PM2.5 ได้ 99% ค่าฝุ่น PM2.5 ลดลงเหลือ 1 PPM ภายใน 1 ชม.*
• กรอง เชื้อโรค** แบคทีเรีย, ไวรัสรวมถึงกลุ่มไวรัสโคโรน่าได้ 99%**
• ช่วยยับยั้งอนุภาคเคมีอันตราย (สารประกระกอบอินทรีย์ระเหยง่าย) ที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้ เช่น อนุภาคเบนซินจากการระเบิดหรือเผาไหม้
• ยับยั้งกลิ่นจากภายนอกบ้านได้ดี เช่น กลิ่นควันรถยนต์ กลิ่นควันไฟจากการเผาไหม้วัสดุธรรมชาติกำจัดกลิ่นจากภายนอกบ้าน รวมถึงกลิ่นจากสารอินทรีย์ เช่น กลิ่นเน่าเสีย กลิ่นอาหาร
• นอกจากนี้ยังช่วยกรองอนุภาคขนาดใหญ่ เช่น ฝุ่นที่เห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า เศษผง เส้นผม ฝุ่นจากผ้า ขนสัตว์ สัตว์ขนาดเล็ก เช่น แมลง
• รวมถึงรับเอาออกซิเจน นำอากาศดีเข้าสู่บ้านมากขึ้น และสร้างแรงดัน Positive Pressure เพื่อขับอากาศเสียออกจากบ้าน โดยอากาศเสียภายในบ้านจะถูกดันออกจากบ้านผ่านช่องว่างๆต่างของบ้านเช่น ช่องบริเวณช่องประตู หน้าต่าง ทำให้อากาศในบ้านสะอาดปลอดภัย มลภาวะไม่สามารถเข้าไปภายในบ้านได้
*หมายเหตุ ต้องเป็นการติดตั้งในบ้านระบบปิด เพื่อควบคุมไม่ให้มลพิษจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้านได้
**เชื้อโรค หมายถึง แบคทีเรีย ทุกประเภท ไวรัสทุกประเภท รวมถึงไวรัสกลุ่ม โคโรน่า ยกเว้นไวรัสที่ขนาด เล็กกว่า 0.3 ไมครอน
ความแตกต่างของ Active AIR Quality กับเครื่องฟอกอากาศทั่วไป
แม้เจ้าของบ้านหลายท่านที่ใช้เครื่องฟอกอากาศทั่วไป เพื่อกรองฝุ่นPM2.5 แล้วคิดว่าเพียงพอ แต่เครื่องฟอกฯ จะทำหน้าที่ฟอกและกรองอากาศที่อยู่ภายในบ้าน แต่ SCG Active AIR Quality นั้นป้องกันมลพิษ ฟอกและกรองเชื้อโรค*ไม่ให้เข้าบ้านตั้งแต่ต้น พร้อมทั้งดันอากาศเสียออกนอกตัวบ้าน ที่สำคัญเครื่องฟอกฯ อาจไม่สามารถดูแลปริมาณ Co2 ได้หากอากาศในบ้านไม่ถ่ายเท ในขณะที่ SCG Active AIR Quality ช่วยนำอากาศดีที่มีออกซิเจนเข้าสู่ตัวบ้าน เพื่อช่วยลดปริมาณ Co2 ทำให้อากาศภายในบ้านสะอาด สดชื่น ยิ่งขึ้น นับเป็นอีกนวัตกรรมสำหรับการดูแลสุขภาพได้ครบวงจรและเป็นการป้องกันตั้งแต่ต้นเหตุ จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนกว่าการใช้เครื่องฟอกอากาศ
*เชื้อโรค หมายถึง แบคทีเรีย ทุกประเภท ไวรัสทุกประเภท รวมถึงไวรัสกลุ่ม โคโรน่า ยกเว้นไวรัสที่ขนาด เล็กกว่า 0.3 ไมครอน
การปรับบ้านให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และวิถีชีวิตแบบใหม่ที่ต้องอยู่ในบ้านนานขึ้น การสร้างอากาศดีในบ้านเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะปัญหาหลักจากอากาศที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ไปจนถึงอันตรายต่อสุขภาพ SCG Active AIR Quality ถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่สามารถปรับอากาศในบ้านให้สะอาดและปลอดภัยตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่ต้องตามแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ที่ตอบโจทย์บ้านปลอดมลพิษ สะอาด ปลอดภัย ในฝัน
“ปรับบ้าน” ในยุคนี้อย่างไรให้ ปลอดภัย อยู่ได้ไร้กังวล เริ่มต้นที่การปรับบ้านให้อากาศดี ด้วยระบบกรองฝุ่นเข้าบ้านอย่างยั่งยืน